วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 2 (ผอ.สศท.2 พิษณุโลก) มอบหมายให้ นายวาริท ชูสกุล ผู้อำนวยการส่วนวิจัยและประเมินผล (สวป.) พร้อมด้วย นายธนากร แก้วจรูญ เศรษฐกรชำนาญการ ร่วมลงพื้นที่ติดตามการตรวจราชการของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมช.กษ.) (นายอิทธิ ศิริลัทธยากร) ในพื้นที่จังหวัดตาก จำนวน 4 จุด มีสาระสำคัญ ดังนี้

จุดที่ 1 โครงการณรงค์งดเผาฟางและตอซัง ณ เทศบาลนครแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ลดปัญหาหมอกกควันจากการเผาขยะ และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในชุมชน และการท่องเที่ยวในจังหวัดตาก ซึ่งการจัดโครงการดังกล่าว มีกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวโครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ให้แก่ผู้แทนศูนย์ข้าวชุมชน จำนวน 5 ศูนย์ การมอบจุลินทรีย์ย่อยสลายตอซังข้าวให้แก่ผู้แทนศูนย์ข้าวชุมชน จำนวน 5 ศูนย์ และเยี่ยมชมการสาธิตไถกลบตอซังข้าว และการใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซังข้าวจากเกษตรกร นอกจากนี้ บริเวณภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการเพื่อให้เกษตรกรเข้าเยี่ยมชมและบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการผลิตข้าว

จุดที่ 2 โครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ณ เทศบาลตำบลแม่จะเรา อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก โดยในช่วงที่ผ่านมาโรคลัมปี สกิน มีการระบาดเกิดขึ้นในโคและกระบือ สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก กรมปศุสัตว์ จึงได้มีมาตรการในการเฝ้าระวังโรคระบาดดังกล่าว มีการควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์อย่างเข้มงวด และจัดอบรมถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนเป็นแนวทางหนึ่งในการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ จึงได้มีการ “Kick off Lumpy Skin” ซึ่งภายในงานได้มีการจัดกิจกรรมการมอบวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน พร้อมอุปกรณ์ให้แก่อาสาปศุสัตว์ จำนวน 40 ราย และมอบเวชภัณฑ์ให้แก่เกษตรกร จำนวน 20 ราย รวมทั้งมีการปล่อยขบวนรถเจ้าหน้าที่อาสาปศุสัตว์ เพื่อรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ให้แก่โคและกระบือที่มีตั้งแต่อายุ 4 เดือนขึ้นไป และจะมีการฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกๆ 6 เดือน นอกจากนี้ ท่าน รมช.กษ. ได้เป็นประธานเปิดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการส่งเสริมการเกษตรที่เป็นกับสิ่งแวดล้อมไถกลบใบอ้อย ลดการเผาอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดตาก โดยเป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างจังหวัดตาก และบริษัท แม่สอดพลังงานสะอาด จำกัด เพื่อรณรงค์ให้เกษตรกรไม่เผาใบอ้อย และเป็นการเพิ่มอินทรีย์วัตถุในกับดิน

จุดที่ 3 สถานที่พักสัตว์ภาคเอกชนเพื่อการนำเข้า (คอกวังแก้ว) อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเป็นคอกกักสัตว์เพื่อการนำเข้าราชอาณาจักรจากประเทศเพื่อนบ้าน มีศักยภาพในการกักโค กระบือ แพะ และแกะ มากกว่า 10,000 ตัว มีการดำเนินการกักโรคสัตว์ที่นำเข้าเพื่อตรวจทดสอบโรค และฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภมูิคุ้มกันให้แก่สัตว์ที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ตามระเบียบของกรมปศุสัตว์ ทั้งนี้ ท่าน รมช.กษ. ได้รับฟังปัญหาของเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง และได้เน้นย้ำว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องชะลอการนำเข้าโคและกระบือจากประเทศเพื่อนบ้านที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2566

จุดที่ 4 โรงสีข้าวชุมชนปันสุข ภายใต้ศูนย์ข้าวชุมชนรักษ์แม่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งศูนย์ข้าวชุมชนรักษ์แม่ ได้รับคัดเลือกและได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมการข้าว ภายใต้โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตในปี 2567 เพื่อจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตและเพิ่มมูลค่าผลผลิตข้าว และได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดตั้งโรงสีชุมชน และอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ เครื่องอบลดความชื้น เครื่องสีข้าว ขนาด และโดรนเพื่อการเกษตร ฯลฯ ทั้งนี้ ท่าน รมช.กษ. ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายอาคารโรงสีข้าว ปันสุข พร้อมทั้งมีคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากกรมการข้าว ผู้แทนหน่วยงานราชการทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และเกษตรกรสมาชิกศูนย์ข้าวชุมชนในพื้นที่ ร่วมแสดงความยินดีจำนวนมาก

ภาพ/ข่าว : คณะทำงานประชาสัมพันธ์ สศท.2 (พิษณุโลก)